เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒o ต.ค. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว! ตั้งใจฟังธรรมนะ วันนี้วันพระ วันพระถ้าหัวใจเป็นผู้ประเสริฐ จากฆราวาสมาบวชเป็นพระ บวชเป็นพระก็มาจากมนุษย์ แล้วมนุษย์เวลาไม่ได้บวชเป็นพระ เป็นพระหรือเปล่า นางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน เป็นพระโสดาบันเป็นพระจากในหัวใจ ถ้าหัวใจประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ความเป็นพระต้องมีมรรค การมีมรรค มีศีล สมาธิ ปัญญา ศีล สมาธิ ปัญญาพิจารณาของเขา พิจารณาละสักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าร่างกายนี้เราอาศัยเขาอยู่ชั่วคราว ไม่สีลัพพตปรามาส ไม่วิจิกิจฉา ไม่มีความลังเลสงสัย ความเป็นพระในหัวใจเขาเรียกพระอริยบุคคล เป็นพระในหัวใจ แต่ถ้าเป็นพระ เป็นพระภายนอก

เวลาเรื่องของสังคม เรื่องของโลก เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์ถ้ามีความเห็นถูกต้องดีงาม มนุษย์ก็จะทำคุณงามความดี ทำคุณงามความดีแล้วได้อะไร? ก็ได้บารมีธรรม ได้สัจธรรม ได้จริตนิสัยที่ดี แต่ถ้ามนุษย์ที่คิดเห็นแก่ตัว คิดทำลายตัวเอง เขาก็ไม่เชื่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น เขาเป็นคนพาล เขาหาแต่ผลประโยชน์ของเขา เขาคิดว่าเขาหาผลประโยชน์ของเขา นั่นคือหาเวรหากรรม เพราะสร้างความกระทบกระเทือนกับสังคม สร้างความกระทบกระเทือนกับสังคมโดยที่ตนเองเป็นคนทำ

กรรม กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน ที่เราเกิดเป็นมนุษย์นี้เรามีเวรมีกรรมแตกต่างกัน เราถึงเกิดเป็นมนุษย์เหมือนกัน เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน แต่มีความคิดความเห็นแตกต่างกัน เพราะเกิดจากการกระทำ กรรมอันนั้นมันสะสมไว้ในหัวใจ คนเกิดมาอยากมีสุขภาพแข็งแรง คนเกิดมาอยากประสบความสำเร็จทางชีวิต สุขภาพแข็งแรง สุขภาพแข็งแรงต้องได้อาหารที่ดี ได้อากาศที่ดี แล้วถ้าสุขภาพที่ดี ต้องอารมณ์ที่ดี ไม่มีความตึงเครียด ไม่มีความกดดันในหัวใจนั้น ถ้าความตึงเครียดในหัวใจ มีแต่อารมณ์ที่กดดันหัวใจนั้น สิ่งที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี นี่ธรรมะ ธรรมะเข้ามาเจือจานตรงนี้ได้

ธรรมะ ธรรมะคือสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกเวลาท่านเป็นโพธิสัตว์ ท่านได้เสียสละมาทั้งตลอดสายชีวิตของท่าน ท่านเสียสละมาเพื่อเหตุใดล่ะ? ท่านเสียสละมาเพื่อความปรารถนาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาท่านสมความปรารถนาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็อยากจะเป็นแบบนั้น อยากจะเป็นแบบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สิ้นกิเลสไป วิมุตติสุขๆ มีความสุขในหัวใจอันนั้น ไม่มีสิ่งเจือปนในโลกที่เข้าไปในหัวใจอันนั้นได้ แต่คนที่ทำอย่างนั้นได้มันต้องมีพื้นฐาน

พื้นฐานของคน คนทำคุณงามความดีมาต่อเนื่อง ทำคุณงามความดีต่อเนื่องมันจะคิดสิ่งใดมันคิดแต่เรื่องดีๆ คนที่คิดเรื่องดีๆ อารมณ์ความรู้สึกที่เป็นความตึงเครียด อารมณ์ความรู้สึกที่บีบคั้นหัวใจมันจะเข้ามาได้อย่างไร

ธรรมโอสถๆ ที่ว่าอยากได้สุขภาพที่ดีๆ ร่างกายที่แข็งแรง ร่างกายที่แข็งแรง อาศัยอากาศ อาศัยอาหารต่างๆ ให้แข็งแรง แต่ร่างกายที่แข็งแรงขนาดไหน จิวยี่กระอักเลือดตาย ทำสิ่งใดขงเบ้งรู้ทันหมด ทำไมฟ้าดินให้จิวยี่มาเกิด ทำไมให้ขงเบ้งมาเกิดด้วยเล่า เครียดมาก มีความบีบคั้นหัวใจมาก ทำอะไรขงเบ้งรู้เท่าทันไปหมดเลย มีความตึงเครียดจนกระอักเลือดตาย นี่ไง ความคิดไง ความคิดความบีบคั้นหัวใจ คิดสิ่งใดขงเบ้งรู้ทันหมดเลย ดูความเครียดสิ ดูความเครียด จิวยี่ถึงกระอักเลือด กระอักเลือดตายเลย

นี่ไง เพราะว่าสิ่งที่บีบคั้นในหัวใจ ถ้าบีบคั้นในหัวใจ เราทำอย่างไรในหัวใจล่ะ มันเป็นกรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เวลาเกิดต่างๆ ขึ้นมา เราเกิดขึ้นมา มีพรรคมีพวก มีเพื่อนมีฝูง มีความรู้สึกที่เหมือนกัน มีความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน มีความรู้สึก ทีนี้สมัยปัจจุบันนี้โลกเจริญขึ้นๆ เขาบอกความเห็นต่างๆ เราต้องอยู่ร่วมกับความเห็นต่างได้ ความเห็นต่างมันเป็นจริตเป็นนิสัย เป็นสันดาน สันดานมันเป็นอย่างนั้น สันดานเป็นอย่างนั้นนะ

ดูสิ เวลาสันดาน สันดานคือความเคยชิน เป็นจริตนิสัย แต่กิเลส กิเลสก็เป็นอีกอย่างหนึ่งนะ กิเลส กิเลสคือตัณหาความทะยานอยาก สันดานเป็นอย่างนั้นนะ สันดานเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเวลาชำระล้างกิเลสไปแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าละได้ทั้งหมด ทั้งจริตนิสัย ละได้ทั้งกิเลสตัณหาความทะยานอยาก แต่พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ อัครสาวกต่างๆ ละกิเลสได้ แต่ละสันดานไม่ได้

สันดาน ดูพระสารีบุตร พระสารีบุตรท่านเคยเกิดเป็นลิงมาก่อน ท่านเคยเกิดในภพชาติ เขาก็บอกว่า “ภพชาติ อย่าเขียนเสือให้วัวกลัว ไม่มีหรอก มันไม่จำเป็นหรอก” เพราะมีภพชาติ ดูสิ ดูผลไม้ ดูพันธุ์ไม้สิ เขาตัดแต่งพันธุกรรมของมัน เขาผสมพันธุ์เพื่อให้มันต้านทานต่อโรค ให้ผลผลิตมันดี นี่ก็เหมือนกัน เวรกรรมมันตัดแต่ง จริตนิสัยของเรานี่แหละ เราฝึกหัดเรานี่แหละ มันจะตัดแต่งหัวใจของเราขึ้นมา ฉะนั้น เวลาตัดแต่งของมันขึ้นมา มันสร้างคุณงามความดีของมันมา

จริตนิสัย เวลาพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะท่านก็มีจริตนิสัยของท่าน ถ้าทางโลกว่าสันดาน สันดานแก้ไม่ได้ เวลาเขานิมนต์พระสารีบุตรไปฉันอาหาร ท่านก็เดินของท่านไป ไปถึงร่องสวน ท่านโดดข้ามๆ ไอ้คนที่มานิมนต์ อ้าว! นี่เสนาบดีแห่งธรรม เป็นอัครสาวกเบื้องขวารององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำไมไม่มีกิริยาสำรวมระวังเลย เดินมาท้องร่องก็เดินไปได้ ทำไมถึงต้องโดดข้าม

คนที่เขาคิดของเขา เพราะว่าอะไร เพราะไอ้นี่มันเป็นมารยาท แม้แต่มารยาทผู้ดีเขายังไม่ทำเลย นี่พระอรหันต์ อัครสาวกเบื้องขวาเป็นเสนาบดีแห่งธรรม กระโดดข้าม ไปฟ้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่ไง ด้วยศรัทธาด้วยความเชื่อ เพราะความเชื่อของเราว่าความสะอาดบริสุทธิ์คือน้ำกลั่น น้ำกลั่นคือมันสะอาดบริสุทธิ์ไง น้ำกลั่นเขาไว้เติมแบตเตอรี่ ของเรา เรากินน้ำสะอาด น้ำสะอาดมันก็มีจุลินทรีย์มีทุกอย่างพร้อม

นี่ก็เหมือนกัน เวลาคิดก็คิดกันอย่างนั้น คิดกันแบบโลกๆ ไง เวลาถ้าสะอาดบริสุทธิ์ต้องสะอาดบริสุทธิ์แบบไม่มีสิ่งใดเจือปนเลย ต้องสะอาดบริสุทธิ์เลย นี่เขาเอาไว้เติมแบต แต่เวลาน้ำที่เขาจะเอาไปใช้ประโยชน์มันเป็นประโยชน์กับร่างกายไง ไปฟ้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า “เขาเป็นอย่างนี้ เขาเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้ แต่เขาละกิเลสได้นะ”

กิเลส ครอบครัวแห่งมาร ปู่ของมาร พ่อของมาร ลูกของมาร หลานของมาร เวลาหลานของมาร ครูบาอาจารย์ที่ท่านประพฤติปฏิบัติ ท่านประพฤติปฏิบัติตรงนี้ไง ถ้าปฏิบัติตรงนี้ ท่านทำของท่านได้ มีมรรค ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค มรรคมันมีการกระทำของมัน สันดานก็คือสันดานนั่นล่ะ สันดานเป็นเรื่องหนึ่ง กิเลสเป็นเรื่องหนึ่ง ทีนี้สันดานบวกกับกิเลส โอ๋ย! ไปใหญ่เลยนะ สันดานก็เลวทรามอยู่แล้ว กิเลสตัณหาความทะยานอยากครอบงำ มันพาลไปหมดเลยนะ

สันดานที่ดี สันดานที่ดี มีมารยาทสังคมต่างๆ มันก็เผาลน กิเลสมันก็เผาลน ถ้ามันเผาลนขึ้นมา เรามีสติมีสัมปชัญญะของเรา ถ้ามีอำนาจวาสนาของเรา มันจะมีศรัทธา ถ้าไม่มีศรัทธา ไม่มีการกระทำ ถ้ามีศรัทธาความเชื่อ ถ้าความเชื่อเรามีเอกภาพ จิตใจมันมั่นคง มั่นคงแล้วทำสิ่งใดก็ได้ นั่งตลอดรุ่งก็ได้ เดินจงกรมทั้งวันทั้งคืนก็ได้ เดินจงกรม ๗ วัน ๘ วันก็ได้ มันทำเพราะอะไร เพราะว่าจิตใจมันมั่นคงมีหลักมีเกณฑ์ มีหลักมีเกณฑ์ มีการกระทำได้ ถ้ากระทำได้ มันพิสูจน์ได้ไง

คนทำ เราทำงาน ทำงานไม่เป็น แต่เราขยันหมั่นเพียรทำ มันต้องมีส้มหล่นให้เป็นผลงานของเราสักชิ้นหนึ่ง เอ๊อะ! แปลกใจแล้ว เฮ้ย! คนอย่างเราทำงานได้ขนาดนี้เชียวหรือ ถ้าทำได้ นี่ไง เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ถ้าเราจะมีอำนาจวาสนาขนาดไหน เรามีความเพียรของเรา ถ้ามันส้มหล่น มันเป็นไปโดยจังหวะ จังหวะมันพอดี เพราะกิเลสมันเผลอ กิเลสมันเผลอขึ้นมา เพราะมันมีเหตุ ธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ เรากำหนดพุทโธ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ กำหนดอานาปานสติ จิตมันเกาะอยู่ๆ เกาะอยู่มันก็ไม่คิดสิ่งใด ถ้ามันสมดุลของมัน มันก็รวมได้

สมาธิคือสมาธิ ถ้ามันมีเหตุมีผลทำได้ พอทำได้ พอทำได้ขึ้นมา ส้มหล่น เอ๊อะ! เอ๊อะ! แล้วเอ๊อะ! ขึ้นมา พอเอ๊อะ! ขึ้นมา มันเห็นของมัน นี่ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก แล้วงงไปหมดนะ เพราะอะไร เพราะมันไม่มี มันอธิบายทางวิทยาศาสตร์ อธิบายทางเหตุผล เรางงนะ เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าครูบาอาจารย์ท่านรู้ ท่านพูดได้ มันเป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต ทางจิตนะ เป็นวิชาแห่งพุทธะ

ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา พอเป็นจริงขึ้นมามันเป็นไปได้ เพราะอะไร เพราะจิตเป็นเอกภาพ เพราะมันมีศรัทธามีความเชื่อ เราทำของเราไม่ได้หรอก เราทำของเรายังไม่เป็น ถ้าทำของเราเป็นนะ ถ้าเราเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ถ้าเป็นพระโสดาบัน นางวิสาขาเกิดอีก ๗ ชาติ ถ้าเป็นพระอรหันต์ไม่มาเกิดอีกแล้ว ไอ้เรามาเกิดมีอวิชชาทั้งนั้น มีความรู้ทั้งนั้น ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าใจทั้งนั้นแหละ ความเข้าใจนั่นก็เข้าใจ เข้าใจโดยสุตมยปัญญา ปัญญาการศึกษา

นี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ปฏิเสธ มันมีของมันอยู่ มันมีของมันอยู่ ขั้นตอนมันมีของมันอยู่ สุตมยปัญญาคือการศึกษา ทฤษฎีศึกษา ศึกษามาเพื่อเป็นความรู้ของเรา มีองค์ความรู้แล้วเก่ง เก่งมาก กระดาษแขวนไว้เต็มบ้านเลย ใบประกาศรอบบ้านเลย เอาไว้เผาศพ แต่จิตใจมันยังทุกข์อยู่นะ นี่ไง ศึกษา ศึกษาแล้วมาปฏิบัติไง ศึกษามา ใบประกาศเต็มบ้านเลย แต่หน้าที่การงานของเราล่ะ เราทำของเรามีผลงานของเราหรือเปล่าล่ะ เราทำขึ้นมาแล้วมีคนเห็นดีเห็นงามกับเราไหมล่ะ เห็นดีเห็นงาม เห็นไหม

ความดีคือความดี ความดีอยู่ที่ไหนก็เป็นความดี ความดี ทุกคนเห็นแล้วเป็นความดี แต่ถ้าใจเขาเป็นธรรม เขาก็ชื่นชมในหัวใจ แต่ถ้าเขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาพูดออกมาเลย อย่างนี้ถูกต้อง นี่ไง ถ้าเราทำคุณงามความดีของเรา ทำความดี

นี่ศึกษามาปริยัติ ศึกษามาเพื่อปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติความจริงขึ้นมามันจะรู้ของมันอย่างนี้ มันจะมีความจริงของมันอย่างนี้ ถ้าความจริงขึ้นมาแล้วมันจะหวั่นไหวไปกับสิ่งใดล่ะ เพราะมันมีความจริงในหัวใจ ความจริงคือความจริงวันยังค่ำ แล้วความจริง ความจริงกับโลกใช่ไหม ทีนี้ความจริงของเรา ความจริงในหัวใจ ความจริงในหัวใจ ความลับไม่มีในโลก ตั้งแต่เราเกิดมา เราทำดีทำชั่ว ทุกคนรู้เองหมดแหละ ตัวเองรู้หมด มันจะมีความลับที่ไหน ถ้ามันไม่มีความลับ ไม่มีความลับกลางหัวใจไง ถ้าไม่มีความลับกลางหัวใจ ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมามันก็จะไปลบล้างอันนั้นได้ไง ถ้าลบล้างอันนั้นได้ นี่มันไม่มีข้อเท็จจริงขึ้นมาจะไปลบล้างได้อย่างไรล่ะ มันจะไปลบล้างจิตใต้สำนึกเราได้อย่างไร ถ้ามันไม่มีมรรค ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญาตามความเป็นจริง มันจะเข้าไปถอดถอนกิเลสได้อย่างไร ถ้ามันถอดถอนกิเลสขึ้นมาได้เป็นความจริง

นี่ไง ดูสิ จิวยี่กระอักเลือดเลย ทำสิ่งใดขงเบ้งรู้ทันหมด นี่ก็เหมือนกัน ทำสิ่งใดกิเลสมันปูพรมให้นอนเลย “ตรงนี้ๆ ใช่แล้ว ว่าง” กิเลสมันชักจูงไปหมดแหละ จินตนาการไปหมด มันเป็นจิตใต้สำนึก ไม่ทันมันหรอก เป็นไปไม่ได้ ที่ปฏิบัติกันแล้วล้มลุกคลุกคลานก็ตรงนี้ อดีตอนาคตไง จะเป็นอย่างนั้น จะเป็นอย่างนี้ รู้อย่างนั้น รู้อย่างนี้ เพราะมันรู้ไปก่อนไง ถ้ารู้ไปก่อน

ฉะนั้น เวลาศึกษามาขนาดไหนแล้ววางไว้ สุตมยปัญญา มันมีของมันอย่างนั้น มันเป็นขั้นตอนของมัน ว่าศึกษาเป็นปัญญาไหม? เป็น กระดาษรอบบ้านนั่นล่ะ ใช่ ใบประกาศ ศึกษาแล้วเขาให้มาคนละใบ ไปอบรมปฏิบัติมา ได้มาคนละใบๆ เป็นตั้งเลยนะ สมาธิไม่รู้จัก ทำสมาธิไม่เป็น ถ้าสมาธิรู้จักนะ กระดาษนั้นโยนทิ้ง เขาไม่เอามา ถือมาทำไม สมาธิอยู่กลางหัวใจนี่ ความรู้สึกอยู่หัวใจนี่ ความทุกข์ความยากอยู่ในหัวใจนี่ ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโกมันไปกับเรา ถ้ามันตาย นางวิสาขาตายไป คุณสมบัติของโสดาบันตายไปกับเขา เขาอยู่ของเขา ถ้าคนมันทุกข์มันยาก เวลาตายไปมันดิ้นรน กระสับกระส่ายดีดดิ้น แล้วตายไป ตายไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น กระดาษก็อยู่นั่น กระดาษเอาไว้เผาตัวเอง

แต่ถ้ามันเป็นความรู้จริงขึ้นมา ความรู้จริงมันเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก ทีนี้ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก การประพฤติปฏิบัติความเป็นจริงของเรา ถ้าต้องการสุขภาพดี เราฟังธรรมๆ สุขภาพดีนะ เราก็ต้องเลือกอาหารที่ดี อากาศที่ดี ทุกอย่างที่ดี แต่ถ้าต้องการสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพจิตที่ดีไง ถ้าสุขภาพจิตที่ดีนะ มันไม่ปรี๊ดๆ โกรธทีเดียวหน้าแดงหมด ทุกอย่างโกรธหมด แต่นี้มันก็เป็นนิสัยของคน นิสัยของคนมันเป็นแบบนั้น แต่ถ้ามันไม่มีกิเลสมายั่วเย้า ไม่มีกิเลสมาสุมไฟ ถ้ามีกิเลสมาสุมไฟด้วย กิเลสมันสุมไฟตลอดนะ มันสุมไฟความรู้สึกนึกคิดเรา เอาอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดมาสุมไฟ พอสุมไฟขึ้นมามันก็ทันที ทันทีตลอดเวลา แต่ถ้ามันรู้ทัน มันสักแต่ว่า

เวลาสักแต่ว่า มันสักแต่ว่าในหัวใจของเราไง นู่นก็สักแต่ว่าๆ สักแต่ว่าคือขี้เกียจไง คนพาล ไอ้นั่นก็สักแต่ว่า เขาทำความดีก็สักแต่ว่า เราไม่ทำ ถ้ามันสักแต่ว่าของเรานะ มันไม่สะเทือนใจไง เพราะทำความดีสักแต่ว่า แต่ใจมันฟูนะ เกินหน้าเกินตา ทำอะไรไม่เกรงใจเราเลย นั่นน่ะสักแต่ว่า ก็เรามันสักแต่ว่า แต่หัวใจมันดิ้นรน แต่ของเราสักแต่ว่านะ

ใครจะดีใครจะชั่วก็เรื่องของเขา ใครทำคุณงามความดี สาธุ โลกนี้มีแต่คนทำดีทั้งนั้น สาธุ สังคมร่มเย็นเป็นสุข เขาเป็นคนดี เขาคิดดี เขาทำดี เขาจะได้บุญกุศลของเขา จิตดวงนั้นเวียนว่ายตายเกิดในทางที่ดี สรรพสิ่งในโลกนี้มีแต่ของดีๆ ของดีๆ เราสาธุไหม ใครจะดีใครจะชั่วมันเรื่องของเขา ใจของเราถ้ามันดีจริง มันดีจริง เราขวนขวายกันมาทำไม

เราขวนขวายกันมาก็เพื่อเสียสละ เสียสละ ความผูกพันมันมีแน่นอน ของของเรา เราหามา มันผูกพันแน่นอน เราสละไป สละที่ไหน สละสิ่งนี้มันเป็นวัตถุ แต่หัวใจเรารับรู้ไหม ถ้าหัวใจรับรู้ นั่น นั่นเจตนา เจตนาที่เราเสียสละๆ เวลาอารมณ์ที่มันบีบคั้นมา เราก็ต้องรู้เท่าทัน เราวางได้ๆ หัดฝึกหัดมานี่แหละ ที่เราดิ้นรนกันมานี่เรามาเสียสละ เสียสละขึ้นมา หัวใจมันรับรู้ ถ้าหัวใจมันรับรู้นะ หน้าที่การงานจะบีบคั้นขนาดไหน แต่หัวใจที่มันสดชื่นไปทำหน้าที่การงาน ปลอดโปร่ง งานเล็กน้อย งานแค่เก็บกวาด แต่หัวใจมันบีบคั้นนะ จับไม้กวาดก็ไม่ไหว มันเครียด มันเครียด นี่ไง แต่ถ้ามันเสียสละ ทำหัวใจ ฝึกหัดหัวใจของเรา

ถ้าหัวใจของเรา เรามาเสียสละความตระหนี่ถี่เหนียว คืออาการ คืออารมณ์ความรู้สึก เราหัดปล่อยหัดวาง ถ้าเราหัดปล่อยหัดวางยังไม่ได้ เราก็ปล่อยวางโดยผ่านการเสียสละทาน ถ้าเสียสละทาน เราทำจิตสงบเข้าไปแล้วมันจับอารมณ์ได้ มันจับได้เลยล่ะ อารมณ์อย่างนี้มันเสียสละอย่างนี้ อารมณ์อย่างนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ไอ้นี่มันแค่วัตถุนะ แต่ว่าความผูกพันมันมี มันก็กระเทือนถึงหัวใจ

แต่เวลาเข้าไปถึงหัวใจจริงๆ กิเลสตัณหาความทะยานอยาก รูปอันวิจิตร แก้วแหวนเงินทองอันวิจิตร สรรพสิ่งในโลกนี้ที่วิจิตรพิสดารไม่ใช่กิเลส ตัณหาความทะยานอยากของคนต่างหาก ตัณหาความทะยานอยากของคนคือกิเลส รูปอันวิจิตร ของอันประณีต ของอันประเสริฐไม่ใช่กิเลส ไม่ใช่ คนที่ไปติดพันมันน่ะ กิเลสตัณหาความทะยานอยากที่ไปอยากได้ อยากดี อยากเป็นนั่นน่ะ นั่นล่ะคือกิเลส ถ้ากิเลสย้อนกลับมาที่นี่ ถ้าย้อนกลับมาที่นี่มันจะเห็นตามความเป็นจริง

นี่ไง เราต้องการร่างกายที่แข็งแรง ร่างกายที่แข็งแรงเราก็หากับโลก อยากอายุมั่นขวัญยืน ถ้าอายุมั่นขวัญยืน คอยไปถามใคร ก็ไปถามคนที่อายุมั่นขวัญยืนว่าทำอย่างไร

ทำอารมณ์ดีๆ อย่าโกรธ อย่าโกรธอย่าเกลียด อย่าเคียดอย่าแค้น แต่จิวยี่กระอักเลือดตาย กระอักเลือดตายเพราะความยึดมั่นถือมั่นของเขา ทำสิ่งใดไปมีคนรู้เท่ารู้ทันหมด กระอักเลือดตาย แต่เราไม่ทำอย่างนั้น เราเป็นชาวพุทธ ชาวพุทธ สิ่งใด กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน ที่เราเกิดมาด้วยกัน มานั่งอยู่เคียงข้างกัน เราต้องทำกรรม ทำกุศลมาร่วมกัน ทีนี้กรรมดีก็มี กรรมชั่วก็มี เคยทำกันมาไว้ชาติใด ถ้าสิ่งใดเกิดขึ้น สาธุ สัพเพ สัตตาเนาะ สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขๆ เถิด แต่เขาเข้ามาเบียดเบียนเรานี่เป็นสุขๆ ไหวไหม เป็นสุขๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เอวัง